สุนัขหมา

โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) เกิดจากอากาศร้อนอบอ้าว ร่วมกับมีภาวะขาดน้ำ ทำให้สุนัขเกิดอาการช็อคหมดสติจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ มีอาการอย่างไร และจะดูแลแบบไหน ไปอ่านกัน
โรคฮีทสโตรกในสุนัข (Heat stroke) มีอาการอย่างไร_dogs-danger-heat-stroke

เพื่อน ๆ เคยได้ยินเรื่องโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heat Stroke) ในน้องหมากันมั้ยคะ เป็นโรคยอดฮิตที่พบการเสียชีวิตบ่อยมากในหน้าร้อน โดยเฉพาะเดือนเมษายนและพฤษภาคมของทุกปีที่อุณหภูมิเมืองไทยจะพุ่งสูงเกิน 37 องศาเซลเซียส วันนี้เรามาทำความรู้จักกับอันตรายที่เกิดจากโรคนี้กัน

โรคฮีทสโตรกสุนัข (Heat Stroke) คืออะไร

โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) คือ ภาวะที่ร่างกายของสุนัขมีอุณหภูมิสูงขึ้นมากกว่าปกติ โดยที่ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของโรคหรือการเป็นไข้แต่อย่างใด สำหรับอุณหภูมิทั่วไปของสุนัขจะอยู่ที่ 38-39 องศาเซลเซียส แต่เมื่อเกิดภาวะฮีทสโตรกอาจวัดได้ถึง 40-41 องศาเซลเซียส โรคนี้คล้ายกับการเกิดลมแดดในคน ที่เมื่ออยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานจะมีภาวะช็อคเป็นลมหมดสติได้

ทำไมสุนัขถึงเป็นโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) ได้

โรคฮีทสโตรกเกิดจากสุนัขอยู่ในบริเวณที่มีอากาศร้อนอบอ้าวเป็นเวลานาน ร่วมกับร่างกายอาจมีภาวะขาดน้ำด้วย เป็นผลให้น้องเกิดภาวะช็อคเป็นลมหมดสติไป ซึ่งบางครั้งอาจอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ เนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์ไม่มีต่อมเหงื่อ เมื่อเกิดการสะสมความร้อนขึ้นในร่างกายจะไม่สามารถระบายออกได้ไวเท่ากับในคน การขับความร้อนของสุนัขมีเพียงวิธีหอบหายใจผ่านช่องปาก และการระบายไอร้อนผ่านฝ่าเท้าเท่านั้น ซึ่งจะใช้เวลานาน กว่าที่อุณหภูมิร่างกายจะลดลงจนเป็นปกติที่ 38-39 องศาเซลเซียส

ปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้างที่ทำให้เป็นโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke)

2A_โรคฮีทสโตรกในสุนัข (Heat stroke) มีอาการอย่างไร_dogs-danger-heat-stroke

นอกจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวแล้ว โรคฮีทสโตรกยังสามารถเกิดได้จากการนำไดร์เป่าร้อนมาใช้หลังการอาบน้ำให้น้องหมา  รวมถึงเราจะพบโรคนี้ได้บ่อย ๆ ในน้องหมาที่อ้วน สุนัขพันธุ์ขนยาว เช่น ไซบีเรียน ฮัสกี้ และกลุ่มสุนัขพันธุ์หน้าสั้น ที่มักมีปัญหาทางเดินหายใจส่วนต้นตีบแคบ เช่น ปั๊ก เฟร้นช์ บูลด็อก หรือ อิงลิช บูลด็อก เนื่องจากการระบายความร้อนที่ไม่ดีเมื่อเทียบกับสุนัขสายพันธุ์ทั่ว ๆ ไป

สำหรับน้องหมาที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจหรือโรคปอด ก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฮีทสโตรกได้เช่นกัน เนื่องจากปัญหาการไหลเวียนเลือดเพื่อระบายความร้อนทำได้ไม่ดีนัก

อาการของโรคฮีทสโตรกสุนัข (Heat Stroke) ที่เจ้าของสามารถสังเกตได้เอง

เพื่อให้เจ้าของเอะใจกับความผิดปกติของน้องหมา และสามารถช่วยเหลือน้องได้ทันก่อนเกิดภาวะช็อคหมดสติ อาการที่เราสามารถสังเกตได้มีดังนี้

  • หอบหายใจเร็วและรุนแรง เมื่อเอามือไปอังที่จมูกจะมีลมร้อนผิดปกติ
  • น้ำลายไหลย้อยออกมาตามปาก
  • สุนัขบางตัวมีอาการอาเจียนออกมา
  • เหงือกสีแดงเข้มขึ้น ต่างจากสุนัขปกติที่เป็นสีอมชมพู
  • พบจุดเลือดออกตามผิวหนังทั่วร่างกาย 
  • เดินเซไปมา คล้ายมีอาการเมา
  • กล้ามเนื้อสั่นเกร็ง พบการกระตุกได้
  • เป็นลม หรือชัก ก่อนหมดสติฉับพลัน

วิธีตรวจสอบสุนัขว่าเป็นโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือไม่

สิ่งที่ทำให้น้องเกิดภาวะของโรคนี้ คือ การที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติมาก ดังนั้นเมื่อพบอาการต้องสงสัยดังกล่าว ให้เจ้าของรีบทำการตรวจเช็คดังนี้

1. ตรวจวัดความร้อนในร่างกาย

ตรวจได้ด้วยการใช้มือเข้าไปสัมผัสตัวน้อง จุดที่แนะนำให้เจ้าของตรวจสอบ คือ ตามขาหนีบของสุนัขซึ่งจะสามารถวัดความร้อนที่ผิดปกติได้ อย่างไรก็ตามแนะนำให้เจ้าของใช้ปรอทวัดอุณหภูมิร่างกายของสุนัขร่วมด้วย ซึ่งหากมีค่าที่สูงกว่า 39 องศาเซลเซียสจะถือว่าน้องมีความเสี่ยงต่อโรคนี้ วิธีแก้ไขคือ ให้รีบลดความร้อนออกจากร่างกายของสุนัขและพาไปพบคุณหมอโดยด่วน

2. ตรวจสอบภาวะขาดน้ำในสุนัข

ตรวจสอบภาวะขาดน้ำในสุนัข โดยทดลองดึงหนังบริเวณหลังคอของน้องขึ้นมา หากพบว่าหนังไม่ยืดหยุ่น ยังคงตั้งชันแม้เราปล่อยมือแล้ว นั่นแสดงว่าน้องกำลังมีภาวะขาดน้ำ ควรรีบหาน้ำให้น้องดื่ม หรือป้อนน้ำให้น้องทันที

การปฐมพยาบาลช่วยเหลือสุนัขที่ช็อคหมดสติจากโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke)

เมื่อพบว่าน้องนอนหมดสติจากโรคลมแดด สิ่งสำคัญอันดับแรกที่เจ้าของต้องเร่งให้การช่วยเหลือคือ “การลดความร้อนในร่างกายสุนัข” โดยนำน้องออกจากบริเวณที่มีอากาศร้อน หาพัดลมเป่าเพื่อระบายอากาศ และหากน้องมีปลอกคอหรือเสื้อผ้าสวมใส่ให้รีบทำการถอดออกไป เพื่อลดความอึดอัดและระบายความร้อนได้มากขึ้น

1A_โรคฮีทสโตรกในสุนัข (Heat stroke) มีอาการอย่างไร_dogs-danger-heat-stroke

หาผ้าชุบน้ำมาเช็ดบริเวณใต้ฝ่าเท้า รักแร้ ขาหนีบ และท้อง เพื่อช่วยลดความร้อนออกจากตัวสัตว์ ไม่แนะนำให้ใช้น้ำแข็งหรือน้ำที่เย็นจัด!!! เพราะร่างกายน้องอาจปรับลดอุณหภูมิไม่ทันจนเกิดสภาวะช็อคได้ ทำการเช็ดตัวสุนัขซ้ำ ๆ พร้อมกับนวดไปตามขาเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เมื่อแน่ใจแล้วว่าร่างกายน้องเริ่มมีอุณหภูมิที่ลดลง ให้รีบพาน้องไปพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุของปัญหาอื่น ๆ เพิ่มเติม

เราจะป้องกันโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) ในสุนัขได้อย่างไร

เมื่อเข้าเดือนที่มีอากาศเริ่มร้อนของปี เจ้าของต้องคอยหมั่นสังเกตความผิดปกติของน้องหมา โดยเฉพาะหากน้องมีน้ำหนักตัวที่เยอะ เป็นพันธุ์ขนยาว หรือพันธ์ุหน้าสั้นจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้บ่อยกว่าสุนัขโดยทั่วไป การป้องกันโรคลมแดดทำได้ดังนี้

  • จัดหาบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทให้น้องอยู่ เช่น ใต้ร่มไม้ที่สามารถบดบังแสงแดดได้ หรือโรงจอดรถ เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการพาน้องไปเดิน หรือออกกำลังที่หนักจนเกินไปท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว 
  • หากมีการพาน้องออกไปเจอกับอากาศที่ร้อนมา ให้รีบใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดฝ่าเท้าเพื่อระบายความร้อนช่วย 
  • เพิ่มจุดวางน้ำให้น้องกิน อาจใส่น้ำแข็งลงไปซักก้อนเพื่อให้น้ำมีความเย็นขึ้น จะช่วยลดอุณหภูมิร่างกายน้องได้ พยายามกระตุ้นน้องให้กินน้ำบ่อย ๆ หากน้องไม่ค่อยกินน้ำเจ้าของอาจจำเป็นต้องป้อนเสริม

สำหรับน้องหมาพันธุ์ขนยาว หน้าร้อนนี้หมอแนะนำให้ตัดขนน้องให้สั้นลงจะช่วยให้การสะสมความร้อนในร่างกายลดลงได้เช่นกัน ขอให้น้องหมาทุกตัวปลอดภัยจากไอร้อนภัยร้าย โรคลมแดดที่มักมาในช่วงหน้าร้อนของทุก ๆ ปีค่ะ หมอหวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์กับเจ้าของในการดูแลสุขภาพสุนัข

หากคุณกำลังมองหาช่องทางในการขยายธุรกิจและเพิ่มยอดขายให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด มาร่วมเป็น Partner กับ Deemmi Pet สิคะ เรามีทีมการตลาดดิจิทัลมืออาชีพ พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนคุณอย่างเต็มที่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line: @deemmipet

แหล่งอ้างอิง: Heat Stroke in Dogs

Share
Picture of สพ.ญ. จันทร์จรัส ปิยะพรมดี

สพ.ญ. จันทร์จรัส ปิยะพรมดี

คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

โปรโมชั่น

สอบถามบริการ แอดเลย

บทความแนะนำ

สุนัขหมา
สุนัขหมา
เช็คลิสต์! อุปกรณ์จำเป็นสำหรับเที่ยวกับสัตว์เลี้ยง กระเป๋าเป้, กระเป๋าล้อลาก, กล่องเดินทาง พร้อมเคล็ดลับเที่ยวสนุก ปลอดภัย
สุนัขหมา
สุนัขหมา
ช็อกโกแลตเป็นพิษสำหรับสุนัข! เรียนรู้อันตราย อาการ และวิธีป้องกันภัยร้ายใกล้ตัวน้องหมา รักษาชีวิตเพื่อนขนฟู
สุนัขหมา
สุนัขหมา
คนรักสัตว์เลี้ยงทั้งหมาและแมวต้องรู้! มาเรียนรู้ความแตกต่างของภาษากายน้องหมา น้องแมว เพื่อความเข้าใจและลดปัญหาการทะเลาะกัน