เปิดตำนานแมวไทยมงคล นำโชคลาภมาสู่ชีวิต
เมื่อพูดถึงแมว สิ่งแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้นความน่ารัก ขนปุย และความขี้อ้อนของพวกเขา แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากแมวจะเป็นเพื่อนคู่ใจ และสัตว์เลี้ยงแสนรู้ที่คอยเติมเต็มความสุขให้กับเจ้าของแล้ว แมวไทยบางสายพันธุ์ยังมีความเชื่อโบราณที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ว่าเป็นแมวที่สามารถนำพาโชคลาภ เงินทอง และความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ผู้เลี้ยง
“แมวไทยมงคล” คือแมวที่มีลักษณะพิเศษ ทั้งสีขน รูปร่าง หรือแม้กระทั่งลักษณะนิสัย ที่เชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี ความมั่งคั่ง และเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยคุ้มครองคนเลี้ยง ดังนั้นวันนี้มารู้จักกันว่ามีสายพันธุ์อะไรบ้าง
6 แมวไทยมงคล เลี้ยงแล้วรวย ดี มีแต่เฮง
![แมววิเชียรมาศ (Siamese Cat)](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2024/05/2_2-768x432.png)
1. แมววิเชียรมาศ (Siamese Cat)
แมววิเชียรมาศ (Siamese) เป็นแมวไทยที่รู้จักกันดีที่สุดในโลก มีฉายาว่า “เพชรแห่งดวงจันทร์” (Moon Diamond) ด้วยลักษณะขนสั้นสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีเข้มที่ใบหน้า หู เท้า หาง และอวัยวะเพศ ซึ่งหากแต้มครบ 9 แห่ง และมีสีดำหรือน้ำตาลเข้มตามตำรา จะถือว่าเป็นแมวที่มีลักษณะดี นอกจากนี้ยังมีดวงตาสีฟ้าสดใสเป็นเอกลักษณ์ แมววิเชียรมาศเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ โดยชาวต่างชาติรู้จักกันในชื่อ “แมวสยาม (Siamese Cat)” ตามตำราเชื่อกันว่าวิเชียรมาศเป็นแมวแห่งโชคลาภ เงินทอง และความสำเร็จ หากใครได้เลี้ยงไว้จะเจริญรุ่งเรือง มีทรัพย์สินเพิ่มพูน
![แมวศุภลักษณ์ (Burmese Cat)](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2024/05/3_1-2-768x432.png)
![แมวศุภลักษณ์ (Burmese Cat)](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2024/05/3_1-2-768x432.png)
2. แมวศุภลักษณ์ (Burmese Cat)
รู้จักกันในอีกชื่อว่า “แมวทองแดง” เป็นหนึ่งในแมวสายพันธุ์ไทยโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เคยเป็นสัตว์เลี้ยงคู่บารมีของชนชั้นสูง แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นแมวที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ ความเชื่อโบราณกล่าวว่า แมวศุภลักษณ์เป็นแมวแห่งโชคลาภ นำพาความรุ่งเรืองมาสู่ผู้เลี้ยง
แมวศุภลักษณ์มีลักษณะเด่นคือ ขนสีทองแดงหรือสีน้ำตาลแดงที่ปกคลุมทั่วทั้งตัว บางตัวอาจมีแต้มสีเข้มที่ตำแหน่งเดียวกับแมววิเชียรมาศ รูปร่างของแมวศุภลักษณ์ไม่ใหญ่โตนัก จัดเป็นแมวขนาดกลาง มีความสง่างาม น้ำหนักพอเหมาะ ฝ่าเท้าอวบ ขาเรียว และหัวค่อนข้างกลม ดวงตาสีเหลืองประกายดุจทองคำ และมีหนวดที่เรียวยาวเหมือนลวดทองแดง แมวศุภลักษณ์จึงเป็นแมวที่มีลักษณะดีสมกับชื่อ “ศุภลักษณ์” ที่แปลว่าลักษณะที่ดี
![แมวโคราช (Korat Cat)](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2024/05/4_1-1-768x432.png)
![แมวโคราช (Korat Cat)](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2024/05/4_1-1-768x432.png)
3. แมวโคราช (Korat Cat)
อีกชื่อหนึ่งคือ “แมวสีสวาด” เป็นแมวไทยสายพันธุ์โบราณจากอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ลักษณะเด่นของสายพันธุ์นี้ คือ ขนสีเงินอมฟ้าเป็นเอกลักษณ์ หรือ “สีสวาด” ซึ่งคนไทยเชื่อว่านำมาซึ่งความสุขและโชคลาภ นอกจากนี้แมวโคราชยังมีลักษณะเด่นอีกอย่าง คือ ศีรษะรูปหัวใจ ดวงตาสีเหลืองอมเขียว
แมวโคราชมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ปรากฏในสมุดข่อยโบราณว่าเป็นหนึ่งในแมวให้โชคลาภที่ดี 17 ตัวของประเทศไทย และยังเคยเป็นแมวคู่บารมีของชนชั้นสูง ปัจจุบัน แมวโคราชได้รับการยอมรับในระดับสากล และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ประจำชาติไทยในปี พ.ศ. 2552
![แมวขาวมณี (Khao Manee)](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2024/05/cover-web-แมวไทยมงคล-1-768x432.png)
![แมวขาวมณี (Khao Manee)](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2024/05/cover-web-แมวไทยมงคล-1-768x432.png)
4. แมวขาวมณี (Khao Manee)
แมวขาวมณี เป็นแมวไทยที่มีความสง่างาม โดดเด่นด้วยขนสีขาวสะอาดตา ผิวหนังละเอียด ลำตัวยาวเพรียว และมีกล้ามเนื้อที่ปกคลุมด้วยขนสั้นแน่นนุ่มสีขาวบริสุทธิ์ ใบหูขนาดกลางถึงใหญ่ จมูกเชิดเล็กน้อย แต่สิ่งที่ทำให้แมวขาวมณีเป็นที่จดจำและเป็นเอกลักษณ์ คือดวงตาที่มีหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้า เหลืองอำพัน เหลือง หรือเขียว โดยอาจมีตาสองสี คือข้างหนึ่งเป็นสีฟ้าและอีกข้างเป็นสีอื่น ซึ่งในประเทศไทยมีความเชื่อว่าแมวขาวมณีตาสองสีนั้นเป็นแมวนำโชค จึงได้รับการขนานนามว่า “แมวนำโชค” นอกจากนี้ แมวขาวมณีบางตัวอาจมีรอยปานบนหัวเมื่อแรกเกิด แต่รอยนี้จะหายไปเมื่ออายุประมาณ 1 ปี ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ตามความเชื่อโบราณ การเลี้ยงแมวขาวมณีจะช่วยค้ำคูณเจ้าของและนำพาโชคลาภมาให้
![.แมวเก้าแต้ม (Khaotam Cat)](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2024/05/6-3-768x432.png)
![.แมวเก้าแต้ม (Khaotam Cat)](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2024/05/6-3-768x432.png)
5. แมวเก้าแต้ม (Khaotam Cat)
แมวเก้าแต้ม เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวมงคลของไทย ที่มีความเชื่อสืบทอดกันมาแต่โบราณว่าจะนำพาความเจริญก้าวหน้า ความสำเร็จ และโชคลาภมาสู่ผู้เลี้ยง ด้วยลักษณะเด่นคือ ขนสีขาวสะอาด มีแต้มสีดำหรือสีน้ำตาลเข้มปรากฏอยู่ 9 แห่งทั่วร่างกาย ได้แก่ บริเวณคอ หัว โคนขาหลังและโคนขาหน้าทั้ง 4 ข้าง แผ่นหลัง โคนหาง และบริเวณไหล่ทั้งสองข้าง ซึ่งแต้มเหล่านี้อาจมีลักษณะเป็นทรงกลมหรือเหลี่ยมก็ได้ แต่ปลายหางจะเป็นสีขาวล้วน
แมวเก้าแต้มมีขนสั้นปกคลุมทั่วทั้งตัว และด้วยความเชื่อที่ว่าเป็นแมว 9 ชีวิต จึงถือเป็นแมวที่มีสิริมงคลสูง ผู้ที่เลี้ยงดูจะพบกับความสุข ความเจริญ และความก้าวหน้าในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการค้าขายและกิจการต่างๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่ในสมัยก่อน ขุนนางและราชสำนักนิยมเลี้ยงแมวเก้าแต้มเพื่อเสริมสร้างบารมีและความมั่งคั่ง
แม้ในปัจจุบัน แมวเก้าแต้มจะหาได้ยากและต้องเสาะหาจากฟาร์มเพาะพันธุ์โดยเฉพาะ แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ที่เชื่อในความเป็นมงคลของแมวสายพันธุ์นี้ หากคุณกำลังมองหาสัตว์เลี้ยงที่จะมาเติมเต็มความสุขและโชคลาภให้กับชีวิต แมวเก้าแต้มอาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
![แมวโกญจา (Korat)](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2024/05/แมว_1-768x432.png)
![แมวโกญจา (Korat)](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2024/05/แมว_1-768x432.png)
6. แมวโกญจา (Korat)
ในขณะที่คนส่วนใหญ่มักเชื่อว่าแมวดำเป็นสัญลักษณ์ของโชคร้าย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตำราดูแมวไทยโบราณกลับยกย่องแมวดำหลายสายพันธุ์ให้เป็นแมวมงคล หนึ่งในนั้นคือ “แมวโกญจา” หรือ “โกนจา” ซึ่งเป็นแมวดำมงคลเพียงสายพันธุ์เดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน
แมวโกญจา มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยขนสีดำสนิทตลอดทั้งตัว จึงได้ชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ดำปลอด” ขนของพวกมันสั้น ละเอียด นุ่ม และเป็นมันเงา ดวงตาสีเหลืองทองหรือเหลืองอมเขียว เป็นประกายราวกับดอกบวบแรกแย้ม ท่วงท่าการเคลื่อนไหวสง่างาม ปราดเปรียว แต่แฝงไปด้วยพลังอำนาจ น่าเกรงขาม
ชื่อ “โกญจา” ยังคงเป็นปริศนา อาจหมายถึงนกกระเรียน หรือเสียงร้องอันกังวานของแมวก็เป็นได้ นอกจากนี้ โกญจามักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแมวนิลรัตน์ ซึ่งในตำราแมวไทยถือเป็นคนละสายพันธุ์กัน ถึงแม้จะมีสีขนที่คล้ายคลึงกันก็ตาม
แมวโกญจาไม่ได้เป็นเพียงแมวดำธรรมดา แต่เป็นแมวมงคลที่เชื่อกันว่าจะนำพาความมั่งคั่ง ความอุดมสมบูรณ์ และความสุขในชีวิตสมรสมาสู่ผู้เลี้ยง ความเชื่อเรื่องแมวดำนำโชคร้ายนั้นเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ในหลายวัฒนธรรม รวมถึงไทยในสมัยโบราณ ถือว่าแมวดำเป็นแมวแห่งโชคลาภ ดังนั้น การตัดสินแมวจากสีขนอาจเป็นการมองโลกแคบเกินไป เพราะท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญกว่าสีขนคือจิตใจที่ดีงามของผู้เลี้ยงต่างหาก
เหนือสิ่งอื่นใดคือ "ความรัก"
แม้ความเชื่อเรื่องแมวมงคลจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการเลี้ยงแมวคือความรัก ความเอาใจใส่ และการดูแลเอาใจใส่ที่ดี แมวทุกตัวล้วนต้องการความรักและความอบอุ่นจากเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นแมวพันธุ์ใดก็ตาม หากเราเลี้ยงดูพวกเขาด้วยความรัก ความผูกพันระหว่างคนกับแมวก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แมวไทยมงคล อาจเป็นเพียงความเชื่อ แต่ความรักและความสุขที่พวกเขามอบให้เรานั้นเป็นของจริงอย่างแน่นอน
หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามมาทางเว็บไซต์ได้ เรามีบริการปรึกษาสัตวแพทย์ออนไลน์ หรือแอดไลน์ @deemmipet เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้
บทความน่าสนใจของ DEEMMI: โรคหัดแมวและหวัดแมวต่างกันอย่างไร โอกาสรอดมีแค่ไหนกัน
แหล่งอ้างอิง: ‘แมว’ มงคลโบราณ 5 สายพันธุ์ไทยแท้
![Picture of ทีม DEEMMI](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2023/10/Deemmi-Pet2-300x300.jpg)
![Picture of ทีม DEEMMI](https://pet.deemmi.com/wp-content/uploads/2023/10/Deemmi-Pet2-300x300.jpg)
ทีม DEEMMI
แพลตฟอร์มเพื่อคนรักสัตว์เลี้ยง ให้บริการจองคิวปรึกษาสัตวแพทย์ออนไลน์และภายในโรงพยาบาล