6 สัตว์เลี้ยง Exotic ยอดฮิตที่ครองใจคนไทย
การเลือกเลี้ยงสัตว์เลี้ยง Exotic สักตัว ไม่ใช่แค่เรื่องของความชอบเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่พื้นที่ เวลา งบประมาณ ไปจนถึงไลฟ์สไตล์ของเรา สัตว์เลี้ยงพิเศษทั้ง 6 ชนิดที่เราคัดมาในวันนี้ มีตั้งแต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนนุ่มฟู ไปจนถึงสัตว์เลื้อยคลานที่สง่างาม แต่ละชนิดมี “คู่มือการดูแล” ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เรามาทำความรู้จักพวกเขาให้ดีขึ้นทีละชนิด เพื่อค้นหาเพื่อนใหม่ที่ใช่สำหรับคุณกันเลย
1. กระต่าย: เพื่อนซี้หูยาวสุดเซนซิทีฟ
อุ้มยังไงไม่ให้เจ็บตัว: ห้ามดึงหูน้องเด็ดขาดเลยนะ! หูของกระต่ายบอบบางและเต็มไปด้วยเส้นเลือด ถ้าจะอุ้ม ให้ใช้มือหนึ่งช้อนใต้อก แล้วใช้อีกมือรองรับน้ำหนักที่ก้นไว้เสมอ ให้ตัวน้องรู้สึกมั่นคงที่สุด และระวังขาหลังของน้องดีดด้วยนะ เล็บคมไม่ใช่เล่น!
อาหารจานหลัก: หญ้าแห้งคือหัวใจ! อาหารหลัก 80% ควรเป็น หญ้าทิโมธีคุณภาพดี (ซื้อได้ที่นี่) เพราะการเคี้ยวหญ้าไฟเบอร์สูงจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และช่วยลับฟันที่งอกยาวตลอดชีวิตของน้องได้ ส่วนอีก 20% เป็นอาหารเม็ดคุณภาพดีและผักสดที่ปลอดภัย เช่น คะน้า กวางตุ้ง แครอท (ให้เป็นของรางวัลเล็กน้อย)
ที่อยู่อาศัย: กรงต้องกว้างพอให้น้องสามารถยืนสองขาและนอนเหยียดยาวได้สบาย ๆ (ซื้อได้ที่นี่) ควรมีห้องน้ำสำหรับฝึกขับถ่าย (กระต่ายฉลาด ฝึกได้ง่ายมาก) และที่สำคัญ หากปล่อยวิ่งเล่นในบ้าน ต้องระวังเรื่องสายไฟและเฟอร์นิเจอร์ เพราะน้องเป็นจอมแทะตัวยงเลย
เรื่องต้องรู้: ปัญหาฟันยาวผิดปกติและโรคระบบทางเดินอาหารเป็นเรื่องใหญ่มากในกระต่าย และมักเกี่ยวข้องกันโดยตรง การให้หญ้าเป็นอาหารหลักจึงเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด
2. หนูแฮมสเตอร์: จิ๋วแต่แจ๋ว ชอบนอนกลางวัน
อาหารของน้อง: เน้นธัญพืชเป็นหลัก ปัจจุบันมีอาหารสูตรผสมสำเร็จรูปที่เหมาะสมมากมาย อาจให้ผักหรือผลไม้เป็นของว่างได้นิดหน่อย แต่อย่าให้อาหารคนเด็ดขาด และถ้ากินไม่หมดให้รีบเก็บเลยนะทุกคน เพราะน้องชอบเอาอาหารไปซ่อนในบ้าน ซึ่งอาจขึ้นราได้
เรื่องต้องรู้: น้องเป็นสัตว์กลางคืน กลางวันจะเอาแต่นอนนิ่ง ๆ ไม่ต้องตกใจไป พอตกดึกนี่แหละคือเวลาปล่อยพลัง! ดังนั้นในกรงควรมี วงล้อวิ่งขนาดใหญ่ที่ปลอดภัย (ไม่มีซี่ลวด) (ซื้อได้ที่นี่) และควรมีวัสดุรองพื้นที่หนา ๆ ให้น้องได้ขุดโพรงตามสัญชาตญาณ
ข้อควรระวังสำคัญ: หนูแฮมสเตอร์ส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะพันธุ์ Syrian หรือไจแอนท์) เป็นสัตว์สันโดษและหวงถิ่นมาก ต้องเลี้ยง 1 ตัวต่อ 1 กรงเท่านั้น การเลี้ยงรวมกันอาจนำไปสู่การต่อสู้ที่รุนแรงถึงชีวิตได้
ทำความคุ้นเคย: น้องอาจจะเชื่องยากนิดนึง ค่อย ๆ ยื่นอาหารให้จากมือบ่อยๆ ให้น้องจำกลิ่นเราได้ ไม่นานก็ซี้กันเองครับ
3. ชูการ์ไกลเดอร์: นักบินตัวน้อย หนึ่งใจให้เจ้าของคนเดียว
นิสัยเฉพาะตัว: น้องจำกลิ่นและเสียงเจ้าของได้แม่นมาก และจะผูกพันกับเจ้าของแค่คนเดียว ชอบซุกตัวในกระเป๋าเสื้ออุ่น ๆ หรือถุงนอนสำหรับชูการ์โดยเฉพาะ
อาหารจานโปรด: ชูการ์ฯ เป็นสัตว์กินทั้งพืชและสัตว์ ต้องการโปรตีนสูงกว่าเพื่อน ๆ เมนูโปรดก็คือพวกแมลงต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถให้เป็น หนอนนกอบแห้งสำหรับสัตว์เลี้ยง] (ซื้อได้ที่นี่) หรืออาหารสำเร็จรูปสำหรับชูการ์ไกลเดอร์โดยเฉพาะ ควบคู่ไปกับผลไม้รสหวาน
ข้อควรระวัง: ห้ามปล่อยให้อยู่ตัวเดียวนาน ๆ น้องเป็นสัตว์สังคมสูงมาก ถ้าเหงาจะเครียดจนป่วยและทำร้ายตัวเองได้ ควรเลี้ยงเป็นคู่ และกรงต้องเป็นกรงทรงสูง มีของเล่นให้ปีนป่ายเยอะ ๆ เพื่อให้น้องได้ออกกำลังกาย
4. เต่าซูคาต้า: เพื่อนรักอายุยืนที่ต้องการแสงแดด
หัวใจสำคัญ: น้องเต่าต้องการแสงแดดเพื่อสังเคราะห์วิตามินดี 3 ให้กระดองและร่างกายแข็งแรง หากเลี้ยงในที่ร่มหรือในบ้าน การติดตั้ง หลอดไฟ UVB สำหรับสัตว์เลื้อยคลาน (ซื้อได้ที่นี่) จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้เลย เพื่อป้องกันโรคกระดองนิ่ม
อาหาร: เต่าซูคาต้าเป็นเต่าบกที่กินพืชไฟเบอร์สูงเป็นหลัก เช่น หญ้า ใบหม่อน ดอกชบา หรือพืชตระกูลกระบองเพชร ควรหลีกเลี่ยงผักที่มีโปรตีนสูงเกินไป (ซื้อได้ที่นี่)
การจัดการความชื้น: แม้จะเป็นเต่าบก แต่เขาต้องการพื้นที่ที่มีความชื้นเพื่อหลบซ่อนตัว เพื่อป้องกันภาวะกระดองปิรามิด (Pyramiding) การมีถ้ำหรือโพรงที่ชื้น ๆ และการแช่น้ำอุ่นตื้น ๆ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งจะช่วยให้สุขภาพดีและขับถ่ายสะดวกครับ
เรื่องต้องรู้: น้องเป็นนักขุดตัวยง! ถ้าเลี้ยงนอกบ้านต้องทำรั้วให้ลึกพอสมควร และเตรียมใจว่าน้องตัวใหญ่และอายุยืนมาก อาจอยู่กับเราไปชั่วชีวิตเลยก็ได้
5. นก (ค็อกคาเทล): ศิลปินเสียงใสที่ต้องการพื้นที่โบยบิน
นิสัยน่ารัก: ค็อกคาเทลเป็นนกที่ฉลาด เป็นมิตร และสามารถฝึกให้เชื่องติดคนได้ง่าย มีเสียงร้องและผิวปากที่เป็นเอกลักษณ์ เราสามารถอ่านอารมณ์ของเขาได้จากหงอนบนหัว (ถ้าตั้งตรงแปลว่าตื่นเต้น ถ้าลู่ไปข้างหลังแปลว่ากลัวหรือโกรธ)
บ้านของน้อง: นกต้องการพื้นที่ในการขยับปีกและบิน การใช้กรงนกขนาดใหญ่สำหรับบิน (Flight Cage) (ซื้อได้ที่นี่) จะช่วยให้นกได้ออกกำลังกาย ลดความเครียด และป้องกันพฤติกรรมจิกขนตัวเองได้ ในกรงควรมีของเล่นหลากหลายเพื่อกระตุ้นสมอง และคอนไม้ที่มีขนาดแตกต่างกันเพื่อสุขภาพเท้าที่ดี
เรื่องต้องรู้: นกเป็นสัตว์ที่บอบบางต่อระบบทางเดินหายใจมาก ควรหลีกเลี่ยงควัน สเปรย์ปรับอากาศ หรือภาชนะเคลือบเทฟลอนในบริเวณที่เลี้ยง เพราะอาจเป็นพิษต่อนกได้
6. งูบอลไพธอน: สัตว์เลื้อยคลานสุดนิ่ง นิสัยเป็นมิตร
ทำไมถึงฮิต: งูบอลไพธอนเป็นงูที่นิสัยดีมาก ไม่ดุร้าย จัดการง่าย และมีสีสันลวดลาย (Morph) ให้เลือกเยอะมาก เวลาตกใจก็จะขดตัวกลม ๆ เหมือนลูกบอล ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “งูบอล” นั่นเอง
บ้านที่อบอุ่น: ที่เลี้ยงต้องเป็นกล่องหรือตู้ที่ มีตัวล็อกฝาที่แน่นหนา เพราะน้องเป็นนักแหกคุกตัวยง! ภายในควรมี ถ้ำหรือโพรงสำหรับงูซ่อนตัว (ซื้อได้ที่นี่) อย่างน้อย 2 จุด (ฝั่งร้อนและฝั่งเย็น) และต้องควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม ซึ่งทำได้ง่ายด้วยแผ่นทำความร้อนพร้อมตัวควบคุมอุณหภูมิ (ซื้อได้ที่นี่) ครับ
การลอกคราบ: งูจะลอกคราบเป็นระยะ ๆ เมื่อโตขึ้น ช่วงก่อนลอกคราบ ตาจะขุ่นและสีตัวจะซีดลง การรักษาความชื้นในที่เลี้ยงให้เหมาะสม (ประมาณ 50-60%) เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะช่วยให้น้องลอกคราบออกทั้งชิ้นได้อย่างง่ายดาย
อาหาร: โดยทั่วไปจะให้หนูแช่แข็งตามขนาดตัวที่เหมาะสม และห้ามป้อนด้วยมือเปล่าเด็ดขาดนะครับ! ควรใช้ที่คีบยาว ๆ เพื่อความปลอดภัย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: Exotic Pet ผิดกฎหมายไหม?
คำตอบ: สัตว์เลี้ยงพิเศษส่วนใหญ่ไม่ผิดกฎหมาย แต่บางชนิด เช่น สัตว์ป่าคุ้มครองบางประเภท จำเป็นต้องมีใบอนุญาตครอบครอง ควรตรวจสอบสถานะของสัตว์ที่สนใจกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชก่อนเสมอ
Q2: ค่ารักษาพยาบาล Exotic Pet แพงกว่าสุนัขและแมวไหม?
คำตอบ: มีแนวโน้มที่จะสูงกว่า เนื่องจากต้องใช้สัตวแพทย์เฉพาะทาง (Exotic Vet) และอุปกรณ์การรักษาที่พิเศษกว่า ควรเตรียมงบประมาณส่วนนี้ไว้ด้วย
Q3: ต้องเตรียมตัวด้านการเงินอย่างไรบ้างก่อนเลี้ยง Exotic Pet?
คำตอบ: นอกจากค่าตัวสัตว์เลี้ยงแล้ว ต้องเตรียมงบสำหรับ:
1. ค่าอุปกรณ์เริ่มต้น (กรง, อุปกรณ์ให้ความร้อน/แสงสว่าง, ของเล่น) ซึ่งอาจสูงมาก
2. ค่าอาหารและวัสดุสิ้นเปลือง ประจำเดือน
3. ค่าตรวจสุขภาพประจำปี กับสัตวแพทย์เฉพาะทาง
4. กองทุนฉุกเฉิน สำหรับกรณีเจ็บป่วย
Q4: Exotic Pet ต้องการการดูแลที่ซับซ้อนกว่าสัตว์เลี้ยงทั่วไปไหม?
คำตอบ: ใช่ สัตว์แต่ละชนิดมีความต้องการด้านอาหาร ที่อยู่อาศัย อุณหภูมิ และความชื้นที่แตกต่างและเฉพาะเจาะจงมากๆ การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนรับมาเลี้ยงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เป็นอย่างไรบ้างครับกับเพื่อนใหม่ทั้ง 6 ชนิด? โลกของ Exotic Pets นั้นมีเสน่ห์และน่าค้นหามาก ๆ แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจรับใครมาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว อย่าลืมศึกษาข้อมูลของเขาให้รอบด้าน เพื่อให้แน่ใจว่าเราพร้อมที่จะมอบความสุขและดูแลเขาไปได้ตลอดชีวิตนะ
บทความนี้ได้รับการตรวจสอบข้อมูลโดย สพ.ญ.สุดา สุระสินธุ์อนันต์ และ สพ.ญ.ปิยาณีย์ งามสุข
บทความน่าสนใจของ DEEMMI: 7 วิธีปั้นความสุขให้น้องหมาในวันฝนตกและอากาศหนาวเย็น
ให้บริการค้นหาสถานที่ Pet Friendly, โรงพยาบาลสัตว์, บริการขนส่งสัตว์เลี้ยง, อาบน้ำตัดขน และที่พักสัตว์เลี้ยง พร้อมโปรโมชันและกิจกรรมรับ Pet Tag ฟรี สำหรับเพิ่มความปลอดภัยให้กับสัตว์เลี้ยงของคุณ